กินไปในเบอลิน

ในขณะที่เพื่อนร่วมคอร์สไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในเบอลิน เวลามีคนถามว่าฉันแพลนจะทำอะไรในเบอลิน ก็ตอบได้แค่ว่าไปกิน แหม ก็ไฟนอลโปรเจคต์ของ...

ในขณะที่เพื่อนร่วมคอร์สไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในเบอลิน เวลามีคนถามว่าฉันแพลนจะทำอะไรในเบอลิน ก็ตอบได้แค่ว่าไปกิน

แหม ก็ไฟนอลโปรเจคต์ของฉันเกี่ยวกับอาหารนี่นา เนี่ยถือเป็น primary research เชียวนะ


ไปเบอลินทริปนี้ ตื่นเต้นตั้งแต่ออกเดินทาง เพราะเป็นครั้งแรกที่ใช้บริการ Blablacar—เว็บไซต์แชร์รถ ฉันลองเข้าไปหาเล่นๆ บังเอิญเจอคนขับคนนึง ที่ขับ BM Series 5 จุดหมายปลายทางอยู่ที่ East Berlin ที่ฉันจะไปพอดี เลยตัดสินใจไปกับเขาเลย แม้จะแพงกว่ารถบัสอยู่บ้าง แต่คิดว่าคงนั่งสบายกว่ากันเยอะ แล้วก็เป็นไปตามคาดจริงๆ เบาะใหญ่นุ่ม หลับสบายมาก แถมโชคดีรถไม่ติด แค่ 4 ชั่วโมงก็ถึงเบอลินแล้ว เร็วกว่านั่ง ICE ซะอีก

ประเด็นคือตอนแรกนึกว่าเขาไปส่งถึงหน้าบ้านโฮส Couchsurfing ของฉัน ปรากฎว่าไปจอดแหมะให้ลงหน้า Ost Bahnhof ฉันนี่มึนเลย ไม่รู้เรื่องว่าบ้านโฮสอยู่ตรงไหน ต้องไปยังไง สุดท้ายคนขับจะออกไปอยู่แล้ว ต้องวิ่งไปเคาะกระจก ขอร้องให้เขาช่วยขับไปส่งบ้านโฮสหน่อยเถอะ พอดีมันอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ เค้าเลยพาฉันไปส่งถึงหน้าประตูบ้าน

แต่ (มีแต่อีกแล้ว) ฉันดันไม่มั่นใจว่า Hanna กับ Kai อยู่บ้านเลขที่ 13 หรือ 31 พอจะค้นดูอีเมลที่เขาเคยส่งมาให้ถึงพบว่ามันหายไปไหนไม่รู้ นามสกุลของทั้งสองคนฉันก็จำไม่ได้ (เป็นครั้งแรกที่ไม่รอบคอบขนาดนี้....) โชคดีที่อย่างน้อยเมมเบอร์โฮสเอาไว้ ไม่งั้นได้นอนข้างถนนแน่ๆ

Hanna, Kai และ Lucy—แมวน้อยสีดำ—ตอนรับฉันอย่างอบอุ่น เนื่องจากไปถึงซะดึก เราเลยไม่มีเวลาได้คุยกันมาก ฮานน่าเอาคอลเลคชั่นแผนที่เบอลินออกมาให้ฉันเลือกชมพร้อมอธิบายคร่าวๆ ว่าอะไรอยู่ตรงไหน  ก่อนที่จะให้กุญแจแฟลตฉันแล้วแยกย้ายกันไปเข้านอน


ความไว้ใจคนแปลกหน้าของเหล่า Couchsurfer ทำให้ฉันประทำใจได้ซะทุกครั้งเลยจริงๆ

ตลอดเวลาสี่คืนกับโฮสชาวเบอลินคราวนี้เป็นอีกประสบการณ์จาก Couchsurfing ที่ฉันเป็นทับใจสุดๆ ฉันรู้สึกอบอุ่น สบายใจ ปลอดภัยเหมือนอยู่บ้าน เราทำอาหารเย็น อบเค้ก เล่นบอร์ดเกมกันตอนกลางคืน ส่วนลูซี่ก็น่ารักน่าชังสุดๆ แถมยังถามรอบเล็บเล็กๆ ไว้ที่ข้อมือของฉันอีกต่างหาก


ลูซี่บอกว่า จะได้ไม่ลืมกันเนอะ

เบอลินเปรียบเสมือนสวรรค์ของเหล่าวีแกนทั้งหลาย เพราะทั้งเมืองเต็มไปด้วยคาเฟ่วีแกน ร้านไอติมวีแกน ร้านเครปวีแกน ซุปเปอร์มาร์เก็ตวีแกน เรียกได้ว่าเบอลินมีทุกอย่างที่วีแกนต้องการเลยก็ว่าได้ ฉันได้ไปนัดเจอกับติวเตอร์จากอังกฤษที่คาเฟ่แห่งหนึ่งชื่อว่า freckles ซึ่งเป็นคาเฟ่วีแกนบรรยากาศน่ารักๆ ฉันอดไม่ได้ที่จะสั่ง berry cream cake มากินคู่กับชามิ้นร้อนๆ



ฉันว่าเค้กเน้นครีมแบบนี้มันเลี่ยนไปนิด แต่ด้วยรสชาติเปรี้ยวๆ หวานของเบอร์รี่ทำให้ฉันกินจนหมดในไม่ช้า

อีกร้านที่อยู่ไม่ห่างจากคาเฟ่แห่งนี้มากนัก และมีชื่อเสียงโด่งดังสุดๆ คงหนีไม่พ้น Mustafa's Gemuese Kebap ที่ฉันต้องเข้าแถวรอกว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้กิน

เข้าแถวรอกินเคบับในเบอลินครึ่งชั่วโมง! ในเมืองที่มีร้านเคบับอยู่ทุกซอกทุกมุมแบบนี้เนี่ยนะ?

ใช่แล้วล่ะ


สิ่งที่ทำให้เคบับเจ้านี้โด่งดัง คือการที่เขาเอาผักพวกมะเขือม่วง มันฝรั่ง ซูกินี่ ไป deep fry แล้วเอามาใส่คู่กับผักสลัดแบบปกติ จะเอาแบบใส่เนื้อไก่ด้วยก็ได้ แต่สำหรับ vegetarian แล้ว เคบับอันนี้ราคาแค่ 2.8 ยูโรเท่านั้น ถามว่าอร่อยมั้ย? ก็โอนะ แต่ถ้าถามว่าคุ้มกับที่ยืมรอครึ่งชั่วโมงรึเปล่า บอกเลยว่าไม่ แต่อารมณ์ประมาณว่ามาถึงแล้วต้องลองสักหน่อยอะเนอะ

ปัญหาอย่างเดียวคือกินยากมากกกกกก ปกติเคบับก็กินยากอยู่แล้ว นี่ยังเอาผักไปทอดมันๆ กัดทีริมฝีกปากมันแผลบเลยทีเดียว

ย้ายมาอีกฝั่งยัง Kreuzkoeln ฉันมีโอกาสได้ไปเขียนโปรเจคต์ในร้านกาแฟเล็กๆ ชื่อว่า two and two คอนเซ็ปต์ของร้านนี้คือ เค้กฝรั่งเศส เครื่องเขียนญี่ปุ่น โดย chai latte ของร้านนี้อร่อยถูกใจฉันมาก เพราะไม่หวานจนเกินไป แต่เค้ก sweet potato ที่ได้ลองยังหวานไปนิด (แต่ก็กินหมด จานนี่สะอาดเลย) บรรยากาศในร้านน่ารักดี ห้องน้ำก็เก๋ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วร้านกาแฟในเบอลินมีที่น่ารักๆ เป็นร้อยร้านนั่นแหละ เรียกได้ว่าไปนั่งเล่นร้านกาแฟไม่ซ้ำกันสักวันยังได้เลย


ร้านสุดท้าย ร้านนี้เข้าไปเจอโดยบังเอิญในวันฝนตก และค้นพบว่านอกจากบรรยากาศดีแล้ว พนักงานเสิร์ฟยังน่ารัก และแซนวิชอร่อยอีกด้วย มันคือคาเฟ่เล็กๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของเกสต์เฮาส์ linnen ในโซน Prenzlauer Berg ที่ฉันไปนั่งแช่ทำโปรเจคต์รอฝนหยุดซะนาน ฉันสั่ง goat cheese with roasted orange, walnut and cranberry sauce panini ร้อนๆ อร่อยมาก (เสียอย่างเดียวตอนนั้นเจ็บปากเลยกินไม่ค่อยสนุก...)


กลับจากเบอลินคราวนี้ ทำให้ฉันเห็นว่า เออ...เบอลินนี่มันน่าอยู่กว่าอังกฤษเยอะเลยนะ ไม่อยากอยู่แล้วอังกฤษอ่ะ อยากย้ายมาอยู่เบอลิน

และสอง ถ้าจะกลับมาอีกครั้ง คร้าวหน้าต้องมาช่วงอากาศดีๆ วันเสาร์อาทิตย์ แล้วให้ Hanna กับ Kai พาไปเดินชมเบอลิน like a local สักหน่อยคงจะดีไม่น้อย

แล้วเจอกันใหม่นะเบอลิน


You Might Also Like

0 comments

Flickr Images