In Puglia with Strangers — A Matera con Sara

ซาร่า (Sara) ไม่ใช่คนแปลกหน้า แต่เธอเคยเป็นคนแปลกหน้าอีกคนที่ฉันรู้จักผ่าน Couchsurfing เมื่อสองปีก่อน จนฉันย้ายมาอยู่โบโลญ่าเนี่ยแหละ เล...


ซาร่า (Sara) ไม่ใช่คนแปลกหน้า แต่เธอเคยเป็นคนแปลกหน้าอีกคนที่ฉันรู้จักผ่าน Couchsurfing เมื่อสองปีก่อน จนฉันย้ายมาอยู่โบโลญ่าเนี่ยแหละ เลยกลายมาเป็นเพื่อนกัน เจอกันเกือบทุกอาทิตย์ อย่างนี้อาทิตย์ละครั้ง เพื่อมากินข้าวกลางวันด้วยกัน

ซาร่าทำกับข้าว ฉันถ่ายรูป สำหรับโปรเจคต์หนังสือทำอาหาร Pranziamo? ของพวกเรา

ส่วนเป้าหมายในการไปพูเลียด้วยกันคราวนี้ คือไปกิน โดยเฉพาะขนมปังขึ้นชื่อจากเมืองอัลตามูร่า

ที่เราเข้ากันได้ดี อาจจะไม่ใช่แค่เพราะชอบอาหารเหมือนกัน แต่เป็นเพราะความรักในขนมปังและช็อคโกเลตที่เหนือระดับคนทั่วไปของพวกเราอีกด้วย

อยู่กับครอบครัวของวิเวียนาด้วยกันห้าวัน เราสามคนแชร์ความรักและความรู้เรื่องอาหารกันมากมาย แล้วเช้าวันที่ฉันกับซาร่ารอคอยก็มาถึง

จะได้ชิมขนมปังขึ้นชื่อจากอัลตามูร่าแล้ว!


วิเวียนาบอกให้เราไปเบเกอรี่บน Via Torino เธอบอกว่าหายากหน่อยนะ ชื่อก็ไม่รู้ด้วย แต่ระดับฉันกับซาร่าแล้ว เราเดินเข้าไปใน Ninivaggi เบเกอรี่ไซส์มินิที่หอมกรุ่นกลิ่นขนมปัง ซื้อ Pane di Altamura กับ focaccia มาครึ่งอันในราคาไม่ถึงสามยูโร เราถือถุงขนมปังที่ยังอุ่นๆ แล้วเดินมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟอย่างร่าเริง

ระหว่างนั่งรอรถไฟประมาณยี่สิบนาที เราเลยเอาขนมปังออกมาชิมกัน

ต้องรีบชิมก่อนหายร้อนน่ะ เดี๋ยวจะหาว่าของเขาไม่อร่อย


หลังจากถ่ายรูปเรียบร้อยแล้ว ซาร่าก็จัดการฉีกขนมปังออกเป็นสองส่วน กรอบนอก ส่วนครัมบ์ด้านในนุ่มเหนียวเหลือเชื่อ เป็นขนมปังที่อร่อยที่สุดโลฟหนึ่งที่เคยได้กินมา

นักท่องเที่ยวต่างชาติสองคน นั่งกินขนมปังเปล่าๆ แล้วทำหน้าเคลิ้มอยู่บนม้านั่งในสถานีรถไฟเมืองอัลตามูร่าที่โคตรจะไม่ touristic คนที่เห็นคงคิดว่าสองคนนี้บ้าไปแล้ว

แต่เราไม่แคร์จ้ะ

มาเตร่า (Matera) นั้นไม่ได้อยู่ในพูเลีย แต่อีกภาคหนึ่งที่ชื่อว่าบาซิลิคาต้า (Basilicata) เมืองนี้ได้รับเลือกให้เป็น Unesco World Heritgae Site และเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งในโลก (ที่ยังมีคนอาศัยอยู่อย่างต่อเนื่อง) ด้านล่างของเมืองจะเป็นเมืองเก่า บ้างอยู่ในถ้ำเลยที่เดียว


เราเดินเล่นบนถนนเก่าแก่ แวะถ่ายรูปไปเรื่องๆ มาเตร่าเป็นเมืองที่ยาวมาก เหมือนจะมีทางให้เดินต่อไปเรื่อยๆ แบบไม่มีจุดสิ้นสุด แต่ในที่สุดเราก็ตัดสินใจว่าได้เห็นความดึกดำบรรพ์ของเมืองนี้มามากพอแล้ว กลับขึ้นไปกินเจลาโต้กันดีกว่า

เนื่องจากในตอนบ่าย ร้านรวงต่างๆ ของที่นี่มักจะปิดพักผ่อน อยากจะกินช็อคโกแลตก็หาซื้อไม่ได้ เราเลยตัดสินใจนั่งรถไฟกลับอัลตามูร่าเพื่อไปตามล่าหาช็อคโกแลตกัน

นี่แหละนะ ชีวิตของฉันและซาร่า

เราโชคดีมากที่ไปเจอร้านเบเกอรี่ที่ขายช็อคโกแลตตอนที่เรากำลังโหยหาพอดี แถมยังเป็นพราลีนรสโปรดของเราทั้งคู่ ดาร์คช็อคโกแลตไส้พิสตาชิโอกับเกลือทะเลนั่นเอง


สาบานได้เลยว่าเราตื่นเต้นดีใจกันเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งได้ของขวัญวันเกิด ถือกล่องช็อคโกแลตไปนั่งกินกันตรงม้านั่งหน้าโบสถ์ ของง่ายๆ ที่ทำให้เรามีความสุข

บอกได้เลยว่าขนมปัง ช็อคโกแลต ฉัน และซาร่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวสุดๆ จะหาใครมาเที่ยวอัลตามูร่ากับฉันเมือนซาร่าแบบนี้คงไม่มีอีกแล้วล่ะ

You Might Also Like

2 comments

  1. Thanks a lot for the blog.Really looking forward to read more. Cool.Hotels in Frankfurt-Oder

    ReplyDelete
  2. Just desire to say your article is as amazing. The clarity on your put up is just spectacular and i can assume you are a professional in this subject. Fine together with your permission let me to clutch your RSS feed to keep up to date with coming near near post. Thank you 1,000,000 and please carry on the rewarding work. Cleaners Manchester

    ReplyDelete

Flickr Images