In Puglia with Strangers — A Bari con Noemi

ฉันติดต่อโนเอมิ (Noemi) ตั้งแต่ตอนที่คิดจะไปบาหรี (Bari) เมื่อเดือนกุมภา แต่ตอนนั้นเธอไม่ว่าง ส่วนฉันก็เปลี่ยนแผนไปเนเปิลส์แทน คราวนี้พอแ...


ฉันติดต่อโนเอมิ (Noemi) ตั้งแต่ตอนที่คิดจะไปบาหรี (Bari) เมื่อเดือนกุมภา แต่ตอนนั้นเธอไม่ว่าง ส่วนฉันก็เปลี่ยนแผนไปเนเปิลส์แทน คราวนี้พอแพลนจะไปบาหรีอีกครั้ง เลยลองติดต่อเธอไปอีกรอบ แม้จะตอบช้าไปสักนิด แต่สุดท้ายเธอก็ยินดีที่จะโฮสฉันสองคืนแรกในบาหรี สองคืนแรกของทริปอันแสนยาวนานนี้

ส่วนสาเหตุที่ติดต่อเธอไปเมื่อตอนนั้นน่ะเหรอ? ก็เพราะเธอชอบอาหารเช้าเหมือนกันไงล่ะ

จะหาคนชอบกินอาหารเช้าในอิตาลีนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายนะขอบอก

วันอังคารเช้า ฉันตั้งนาฬิกาปลุกสามครั้ง (แต่ตื่นตั้งแต่นาฬิกาปลุกครั้งแรกจะดัง) แล้วออกเดินแบกเป้สีชมพูใบเก่งไปยังสถานีรถไฟ แวะซื้อบริยอชของ Gino Fabbri กินเป็นข้าวเช้าสักหน่อยก่อนการเดินทางด้วยรถไฟกว่าห้าชั่วโมงครึ่งของฉัน

แอบเซ็งนิดๆ ที่ไม่ได้ที่นั่งแบบมีโต๊ะ แต่อย่างน้อยก็นั่งติดทางเดินละกัน

ฉันนั่งทำงานในแมคไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเน็ตเช็ค Whatsapp แล้วพบกับข้อความจากโนเอมิ...

“…ฉันตื่นเช้ามาพบว่าตัวเองป่วย มีไข้ รู้สึกแย่มากเลย แต่ไม่แน่เดี๋ยวบ่ายนี้อาจจะดีขึ้น เดี๋ยวฉันจะลองถามเพื่อนให้ว่าโฮสเธอได้ไหม”

เยี่ยมเลย แล้วคืนนี้ฉันจะนอนไหนล่ะเนี่ย

มีเรื่องให้ตื่นเต้นตั้งแต่ยังไม่ถึงที่หมายปลายทางเลยนะ

แต่ฉันไม่ได้กังวลอะไรมากมาย อยู่บนรถไฟแล้วนี่นา พอไปถึงที่หมายค่อยหาทางออกทีหลังละกัน

พอไปถึงบาหรี ฉันเวะเอากระเป๋าไปทิ้งไว้ที่แฟลตใกล้สถานีรถไฟของเธอ ก่อนที่จะออกไปเดินเล่นในเมือง แล้วปล่อยให้โนเอมิได้พักผ่อนต่ออีกสักหน่อย


สำหรับฉันแล้ว บาหรีเป็นเมืองที่มีสเน่ห์มาก บ้านเมืองอาจจะไม่ได้สวยแปลกตาเท่าไหร่ แต่ฉันรู้สึกว่าที่นี่มีชีวิตชีวา คงเป็นเพราะได้พบเจอและพูดคุยกับใครหลายๆ คนที่นี่ด้วยล่ะมั้ง ทั้งบลอกเกอร์ คุณยายที่เปิดบ้านให้ฉันเข้าไปดูแกทำพาสต้า orecchiette โดยไม่พยายามขายของเหมือนยายคนอื่นๆ และดานีเอล่า เพื่อนสาวจากเทรนโต้ (Trento) ของโนเอมิ

เพราะเธอมาพาฉันเดินชมเมืองเองไม่ได้ เลยส่งเพื่อนมาแทนซะเลย


ครั้งแรกที่เห็นหน้าดานีเอล่า ฉันไม่คิดว่าเป็นคนทางใต้ อาจจะเป็นเพราะผมสีบลอนด์สว่างและดวงตาสีฟ้าใสของเธอ แวบแรกที่ห็น ฉันคิดในใจทันทีว่านี่มันธีมสีฟ้าขาวของสารคดีที่ฉันทำอยู่ชัดๆ

เลยขอถ่ายวิดีโอเอาไว้สักหน่อย เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร

คุยกันได้ไหม่นาน ฉันค้นพบว่าเราสองคนมีอะไรเหมือนกันไม่น้อย เมื่อหกปีที่แล้ว ดานีเอลีย้ายไปเรียนมหาลัยที่เทรนโต้ เมืองทางตอนเหนือของอิตาลี (เหนือกว่าโบโลญ่าซะอีก) เธอไปแลกเปลี่ยน Erasmus ที่โปรตุเกสมาเทอมหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นอาสาสมัครที่เคยไปออสเตรเลียกับเอเอฟเอส (AFS) มาอีกด้วย


เราเดินไปคุยไปเรื่อยๆ จนเกือบถึงแฟลตของโนเอมิ แยกย้ายกันกลับบ้านไปกินข้าว แล้วเจอกันอีกครั้งที่ผับเล็กๆ อีกฝากของสถานีรถไฟ สถานที่ที่เธอและเพื่อนๆ มาแฮ้งก์เอ้าท์กันเกือบทุกวันเมื่อตอนเรียนม.ปลาย ทุกคืนวันอังคาร ที่นี่จะมีดนตรีสดพื้นบ้านจากแถบซาเลนโต้ ผู้คนจับคู่เต้นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนฉันก็เลียนแบบเก่ง ไปร่วมแจมกับเขาด้วย

ตกหลุมรักในสีสันและความมีชีวิตชีวาของวิถีชีวิตที่นี่เข้าเต็มเปา


เนื่องจากฉันบอกว่าอยากกินอาหารทะเลตั้งแต่วันแรกที่มาถึง ก่อนออกจากบาหรีโนเอมิเลยชวนมาทำอาหารกลางวันกินกัน

เริ่มจากสองสามคน พอถึงเวลาเข้าจริงๆ มากินด้วยกันเจ็ดคนจ้า


เราทำ cavatelli con frutti di mare หรือพาสต้าทะเลกินกัน (cavatelli เป็นชื่อพาสต้ารูปทรงหนึ่งที่เป็นที่นิยมในพูเลียนั่นเอง) โดยมีแฟนของโนเอมิเป็นเชฟ อาหารกลางวันของเรากินเวลายาวนานจนถึงเกือบสี่โมงเย็น เริ่มจากขนมขบเคี้ยวกินเล่นกับไวน์ขาวคนละแก้ว พาสต้ารสชาติเยี่ยม ต่อด้วยเหล้าจากมะนาวและส้มทำเองเพื่อช่วยย่อย (ตามธรรมเนียมอิตาลี มื้ออาหารมักจะปิดท้ายด้วยเอสเปรสโซ หรือเหล้าช็อตนึง)

แล้วก็ถึงเวลาที่ฉันต้องโบกมือลาบาหรี เมืองเล็กๆ ที่มีสเน่ห์แห่งนี้ เนโอมิและเพื่อนๆ ที่น่ารักของเธอ

มันคือจุดเริ่มต้นที่สนุกสนานและน่าจดจำ จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดของกาเดินทางสองอาทิตย์ที่ฉันจะไม่มีวันลืม

You Might Also Like

0 comments

Flickr Images