Ultima Fermata: Bologna (+the gelateria guide)

ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับ Bologna เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือภายในชั่วข้ามคืน จากสองสามวันแรกที่สาบานตนว่าจะไม่กลับมาเหยียบเมืองนี้อีกแล้ว ...

ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับ Bologna เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือภายในชั่วข้ามคืน จากสองสามวันแรกที่สาบานตนว่าจะไม่กลับมาเหยียบเมืองนี้อีกแล้ว สองสามวันก่อนกลับฉันกลับหลงรักมันอย่างหัวปักหัวปำ

ผู้คน อาหาร ขนมปัง เจลาโต้

ฉันรัก Bologna


ทั้งๆ ที่เป็นช่วงสุดท้ายก่อนการเดินทาง ที่บ่อยครั้งฉันมักจะรู้สึกว่าไม่อยากพบเจอใคร หรือพยายามหาเรื่องคุยกับครั้งที่ไม่รู้จักอีกแล้ว แค่อยากอยู่เฉยๆ นั่งเล่น นอนเล่น กินเล่นรหอเวลากลับบ้านเท่านั้น เพราะการต้องพบเจอผู้คนใหม่ๆ ตลอดเวลานี่ไม่เหนื่อยใช่ย่อยเหมือนกัน

แต่คราวนี้สถานการณ์ (และความจน) บีบบังคับ ให้ฉันต้องย้ายที่นอนใหม่ทุกคืนเป็นเวลาสามวัน สามโฮสที่ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อน

สุดโต่งไปเลยไหมล่ะ

โชคดีมากที่ทุกคนที่ฉันไปอยู่ด้วยนั้น ทำให้ช่วงเวลาใน Bologna น่าจดจำขึ้นกว่าเดิมซะอีก


เริ่มจากนักเรียน Erasmus จากเยอรมนีที่เพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อสองสัปดาห์ก่อน นักเรียนดาราศาสตร์จากทางตอนเหนือของอิตาลีที่ทำทิรามิสุที่อร่อยที่สุดในโลกให้ฉันกิน ไปจนถึงครูสอนภาษาอิตาเลียนที่มีน้องเขยเป็นเจ้าของร้านพิซซ่าชื่อดังในโรม


นอกจากนี้ยังมีเจ้าของร้าน sourdough bakery ที่ฉันเข้าไปคุยเล่นด้วยเป็นชั่วโมง เหมือนเพื่อนที่ทำงานด้วยกันมานาน ได้ชิมขนมปังและเพสทรี่อร่อยๆ ของที่ร้านอีกหลายอย่าง

สามคืนที่อยู่ Bologna อิ่มทั้งกาย (จากการทัวร์ชิมเจลาโตทั้งแปดร้าน) และของฟรีอร่อยๆ ทั้งหลายที่โฮสแต่ละคนทำให้กิน

เป็นสามคืนที่เหนื่อย แต่มันเต็มไปด้วยความสุข ความรู้สึกอิ่มใจจากความใจดีที่คนแปลกหน้าแต่ละคนหยิบยื่นมาให้ มันทำให้โลกนี้ดูน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ ร่างกายคงจะเหนื่อยล้าไม่น้อย แต่กลับรู้สึกมีความสุข และมีพลังอย่างประหลาด ฉันเดินทางกลับอังกฤษด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า และความอิ่มอกอิ่มใจที่เปล่งประกายเป็นออร่าออกมา

ฟังดูเพ้อๆ แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นะ

จนกลับมาถึงอังกฤษนั่นแหละ ความอึมครึมของอากาศ และที่สำคัญคือผู้คนในประเทศนี้ ดูดเอาพลังงานที่สะสมมาจากอิตาลีออกไปหมดเลย

สงสัยต้องย้ายไปอยู่อิตาลีซะแล้วล่ะ


Bologna's Gelato Guide


Stefino จุดเด่นของร้านนี้คือมีเป็นไอติมออแกร์นิค และมีตัวเลือกเยอะมากสำหรับคนไม่ทานนม รสแปลกๆ อย่างช็อคโกแลตแกงกะหรี่ หรือช็อคโกแลตกับพริกก็มีเยอะ ส่วนตัวชอบซอร์เบตของที่นี่ สดชื่นดี



Creameria Santo Stefano รส salted pistachio ของร้านนี้อร่อยมาก แอบเค็มไปนิดนึงแต่ถ้าสั่งคู่กับ pistachio di Bronte แล้วกินผสมกันน่าจะกลมกล่อมกำลังดีสุดๆ


Lilasu ร้านนี้อยู่ใจกลางเมือง พนักงานน่ารัก โคนอร่อยมาก ชอบรส salted peanut หรือ Tre Frecce สุดๆ ร้านนี้มีรสแปลกๆ และรสพิเศษออกมาบ่อยเหมือนกัน ล่าสุดเข้าไปดูในเว็บไซต์ มีรสฟักทองสำหรับช่วงเทศกาลฮัลโลวีน แต่สุดโต่งสุดๆ คงหนีไม่พ้นรสแฮม Mortadella แน่ๆ

ใครชอบลองของแปลกก็ไปชิมกันเอาเองนะ


Sorbole ร้านนี้รสชาติถึงมาก ชอคโกแลตซอร์เบตกับส้มนี่ก็ดาร์กสะใจ เสาวรสกับมะพร้าวก็ถึงรสจริงๆ เสียดายสองรสนี้ไม่ค่อยเข้ากันเท่านั้นเอง

แต่ไปกินรสช็คโกแลตสุดเข้มข้นอย่างเดียวก้คุ้มแล้ว


Gellaria 49 ร้านนี้ทุกคนบอกว่าอร่อยมาก (แถมอยู่ตรงข้ามเบเกอรี่โปรดอีกต่างหาก) แต่ด้วยความที่วันนั้นกินเยอะจนอืด เลยสั่งรสเบาๆ เป็นชอคโกแลตกับพิสตาชิโอแบบไม่ใส่นมวัว ถ้าสั่งรสธรรมดาๆ (หรือไม่ไปกินตอนอืด) อาจจะอร่อยกว่านี้ก็ได้  ที่จริงร้านนี้มีรสแปลกๆ เยอะเหมือนกันนะ อย่างพาร์มีซานกับแพร์งี้ น่าลอง

เลยสงสัยว่าต้องกลับไปใหม่...



Cremeria San Francessco ชอบรส salted pistachio อีกแล้ว รสโปรดตลอดกาลของฉันเลยล่ะ ดาร์คชอคโกแลตของที่นี่ก็ดาร์คสมชื่อนะ กินคู่กันอร่อยมาก


La Sorbetteria Castiglione ร้านนี้มีรสแปลกๆ เยอะ ส่วนมากจะเป็นนมๆ คาราเมล และถั่ว ก็อร่อยดีนะ


Il Gelatauro ร้านนี้คนแนะนำเยอะเหมือนกัน แต่ยังเฉยๆ ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ชอคโกแลตรสส้มของที่นี่อร่อยตรงที่มีเนื้อเค้กสปันจ์อยู่ด้วย แต่หวานไปหน่อย และเข้มข้นสู้ Sorbole ไม่ได้เลย



ของแถมอีกร้านที่ Nonna Vicenza เพราะกรานิต้า (granite) สไตล์ซิซิเลียน (Sicilian) ซึ่งเนื้อจะแน่นเหมือนไอติมกว่า ไม่เหลวเหมือนกรานิต้าจะส่วนอื่นๆ ของอิตาลี อร่อยไม่แพ้ซอร์เบตเลย โดยเฉพาะรสพิสตาชิโอ้กับรสกาแฟ เพราะไม่มีนมเลยสดชื่น ไม่รู้สึกว่ามันหนัก คราวหน้าจะกลับไปลองรสชอคโกแลตนะ cannoli ของร้านนี้ก็น่ากิน...

มีร้านนึงที่อยากลองแต่ไม่ได้ไปลอง คือ Cremeria Funivia ที่ค่อนข้างดังมาก เดี๋ยวกลับไปคราวหน้าค่อยไปลองละกัน :)


You Might Also Like

0 comments

Flickr Images