ที่บ้านหลังใหม่ของฉัน—อยู่หอ vs เช่าบ้าน

กลับมาที่อังกฤษอีกครั้ง เมืองเดิม มหาลัยเดิม แต่ที่อยู่ใหม่ ปีนี้ไม่ได้อยู่หอแล้วนะ ปีนี้เช่าบ้านอยู่!

กลับมาที่อังกฤษอีกครั้ง เมืองเดิม มหาลัยเดิม แต่ที่อยู่ใหม่

ปีนี้ไม่ได้อยู่หอแล้วนะ ปีนี้เช่าบ้านอยู่!




อาจจะไม่ค่อยได้เล่าเรื่องที่อยู่เมื่อปีที่แล้วมากเท่าไหร่ (หรือไม่ได้เล่าเลย...?) หรือจะเรียกว่าไม่ได้เล่าเลยก็ว่าได้ เพราะส่วนตัวแล้วไม่ค่อยแฮปปี้กับการอยู่หอพักแบบนั้นเท่าไหร่นัก

ปีที่แล้ว ฉันเลือกอยู่หอพักชื่อดังยอดนิยมในหมู่คนไทย ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ไปซื้อของนี่สะดวกมาก แถมยังใกล้มหาลัยสุดๆ แบบเดินห้านาทีถึง

เพราะปีที่แล้วเป็นปีแรกของการมาอยู่อังกฤษ ไม่อยากให้ชีวิตผาดโผนมาก เลยขอทำอะไรที่มันเซฟๆ ไว้ก่อน อย่างการอยู่หอพักเป็นต้น

แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เดือนแรกที่มาอยู่ก็เจอปัญหาเข้าให้เลย แฟลตเมตของฉันแต่ละคนไม่มีใครเข้ากันได้สักคน ที่แย่ที่สุดคือผู้ชายห้องข้างๆ ซึ่งชอบสูบบุหรี่และกัญชา คือสูบจนเหม็นไปทั้งแฟลต เข้ามาถึงในห้องนอนฉัน นอกจากนี้ยังชอบส่งเสียงดังตอนดึกๆ ตีหนึ่งตีสอง มีเคาะประตู ทุบกำแพง คืออยู่ที่นี่สุขภาพจิตเสียมาก

เลยเปลี่ยนแฟลตซะเลย

แฟลตใหม่ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ด้วยธรรมชาติของหอที่ฉันอยู่ (ซึ่งอยู่ในเมืองมาก) มันทำให้รู้สึกอึดอัด เหมือนอยู่ในป่าคอนกรีต ส่วนด้านในเป็นเหมือนโรงแรม มีทางเดินปู้พรมเหมือนในโรงแรม ห้องแต่ละห้องเหมือนกันหมด ไม่มีระเบียง มีแค่หน้าต่างบานเดียวที่มองออกไปไม่เห็นสีเขียวเลยสักนิด

ฉันคิดถึงสวน คิดถึงต้นไม้ คิดถึงสีเขียว โดยเฉพาะวันไหนที่แดดออก อากาศดี แต่มองไปรอบๆ ตัวก็มีแต่ตึกกับถนน (และรถติดไซเรนที่วิ่งผ่านชั่วโมงละหลายคัน) ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในเมืองที่ไร้ชีวิตชีวาที่สุด

ฉันตัดสินใจว่ายังไงๆ ปีหน้าก็จะไม่อยู่หอ ถ้าให้ใครมาอยู่ด้วยไม่ได้ ก็จะเช่าแฟลตอยู่คนเดียวซะเลย



แต่สุดท้ายก็โชคดี เจอแฟลตเมตสองคนจากการกูเกิ้ลคำว่า vegetarian houseshare in leeds คือบังเอิญมาก ละพอได้เจอกัน คุยกัน เหมือนมันลงตัวสุดๆ โดยเฉพาะกับโฟล (Flo) ฮิปปี้สาวจากลอนดอนที่ดูเหมือนจะเข้ากันไปได้ซะทุกเรื่อง ชอบกินอาหารเหมือนๆ กัน โคตรเฮลตี้เหมือนกัน นั่งวิปัสสนาเหมือนกัน เล่นโยคะเหมือนกัน จนทำให้เรามีกิจกรรมทำร่วมกันเยอะไปหมด

ในที่สุดฉันก็หาบ้านของฉันเจอสักที

แม้ว่ากว่าจะหาบ้านหลังนี้จะจะยากลำบากสักนิด เพราะการจะหาบ้านที่ถูกใจเราทั้งสามคนนั้นไม่ง่ายเลย แต่ในที่สุดพวกเราก็มาลงเอยกันที่บ้านสามชั้นเล็กๆ ที่มีสวนหลังบ้านขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยและตัวเองมากนัก



ความสุขของบ้านหลังนี้คือโซฟาในสวน ที่ช่างเหมาะเจาะกับอากาศดีๆ ฝ้าใส แดดจ้า ของเดือนกันยาและตุลาสุดๆ (ไม่ได้ประชดนะ ปีนี้อังกฤษอากาศดีจริงๆ) สวนหลังบ้านอยู่ทางทิศตะวันตก วันไหนอยู่บ้านตอนบ่ายๆ ฉันเลยจะออกมานอนอ่านหนังสือบนโซฟา หรือนั่งทำงาน เขียนบลอก (เหมือนที่กำลังเขียนบลอกนี้อยู่นั่นแหละ)

การได้อยู่บ้านดีๆ กับเพื่อนดีๆ มันทำให้ชีวิตที่อังกฤษของฉันดีขึ้นเยอะเลย

บ้านนั้นสำคัญจริงๆ


You Might Also Like

0 comments

Flickr Images