The Golden Circle of Iceland
17:36:00Golden Circle เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไป ไม่ว่าจะมาเที่ยวไอซ์แลนด์เพียงสามสี่วันหรือหลายสัปดาห์ ด้วยความมันเป็นการเดินทางออกนอกเมืองวันแรกของเรา ทุกอย่างจึงดูตื่นตาตื่นใจไปหมด ตั้งแต่ทุ่งหญ้าทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ไปจนถึงหิมะริมสองข้างทาง
บนเส้นทางวงกลมสีทองแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวกลักๆ อยู่สามแห่ง คือ Geysir, Gullfoss และ Thingvillir National Park (เราไม่ได้ไปกัน นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ฉันต้องกลับไปไอซ์แลนด์อีกครั้ง!) ซึ่งเป็นจุดที่แผ่นทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปมาเจอกัน โดยนักท่องเที่ยวสามารถซื้อทัวร์ไปดำน้ำระหว่างรอยแตกของสองแผ่นทวีป Silfra ได้ นำที่นี่ใสมากชนิดที่มองเห็นได้ไกลถึง 100 เมตรขณะที่อยู่ใต้น้ำเลยทีเดียว
นอกจากจุดเที่ยวชมหลักๆ เหล่านั้นแล้ว ระหว่างทางยังมีน้ำตกเล็กๆ น้อยๆ ที่สวยไม่แพ้กันอย่าง Brúarfoss และ Öxarárfoss อีกด้วย
แต่สองที่นั้นเราก็ไม่ได้ไปอีกนั่นแหละ ที่จริงจะไปBrúarfoss แล้ว แต่ฝนตก ทางเดินเข้าไปเป็นโคลนหมดเลย ถ้าไม่มาใหม่หน้าร้อนคงต้องพกบู้ทยางหนีน้ำท่วมมาด้วยนะ
ส่วน Geysir ต้องเสียค่าเข้าถึงคนละ600ISK ถ้าถามว่าคุ้มกับสิ่งที่ไปเห็นไหม คงต้องตอบว่าไม่ แต่มาแล้วเหมือนต้องเข้าไปดูเนอะ จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่ Strokkur น้ำพุร้อนแห่งเดียวของที่นี่ที่ยังทำงานอย่างขยันขันแข็ง พุ่งขึ้นมาสูงกว่า 20-30 เมตรทุกๆ 5-10 นาที อีกแห่งที่ไม่ควรพลาดคือ Blesi บ่อน้ำพุร้อนเล็กๆ สีฟ้าสดใส บริเวณโดยรอบนี้จะถ่ายรูปค่อนข้างยากนิดนึง เพราะมีควันลอยขึ้นมาทำให้เล่นเป็นฝ้าตลอดเวลา แถมยังอยู่นานๆ ไม่ได้อีกต่างหาก เพราะเหม็นกลิ่นกำมะถันไข่ต้มเหลือเกิน
พูดเหมือน Golden Circle ไม่ค่อยมีที่เที่ยวเท่าไหร่เลย แล้วทำไมพวกเราถึงเลือกที่จะนอนที่นี่ล่ะ?
ที่จริงมีอีกหลายที่ที่เรายังอยากไปแต่ไม่มีโอกาสได้ไป ทั้ง Brúarfoss และ Pingvillir National Park แต่อากาศไม่เอื้ออำนวยเอาซะเลย นี่แหละคือสาเหตุที่เราตัดสินใจนอนที่นี่ เผื่อสภาพอากาศไม่เป็นใจ เผื่อถ่ายรูปตอนเพราะอาทิตย์ขึ้นและตก และที่สำคัญจะได้ไม่ต้องรีบขับรถ รีบเที่ยว รีบไปต่อไงล่ะ
ค่อยๆ เก็บรายละเอียดทีละน้อย เที่ยวไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน เพราะการเดินทางคือการพักผ่อนอย่างหนึ่งนั่นเอง
0 comments