รวมมิตรที่พักใน Iceland

ที่พักในไอซ์แลนด์มีให้เลือกหลาย แบบราคา ตั้งแต่เช่ารถบ้าน แบคแพคเกอร์ราคาถูกแบบให้เอาถุงนอนไปเอง แบคแพคเกอร์ที่เก๋ไก๋ดูดีมีราคาขึ้นมาหน่อย เ...

ที่พักในไอซ์แลนด์มีให้เลือกหลาย แบบราคา ตั้งแต่เช่ารถบ้าน แบคแพคเกอร์ราคาถูกแบบให้เอาถุงนอนไปเอง แบคแพคเกอร์ที่เก๋ไก๋ดูดีมีราคาขึ้นมาหน่อย เกสต์เฮ้าส์ Bed & Breakfast และโรงแรงขนาดเล็กและใหญ่ ส่วนมากเราเลือกพักตามเกสต์เฮ้าส์และ Bed & Breakfast มีพักโรงแรมเล็กๆ และห้อง Family Room ของแบคแพคเกอร์บ้าง เพราะไปเที่ยวกันสามคนนี่การหาที่พักมันยุ่งยากเหลือเกิน
ฉันรวบรวมรายชื่อที่พักที่ได้ไปซุกหัวนอนมาตลอด 14 คืนไว้ที่นี่ เริ่มจาก Reykjavik เมืองหลวง วนลงใต้จนครบรอบแล้วมาจบที่ Keflavik ก่อนขึ้นเครื่องกลับบ้าน

ปล. คลิกชื่อเมืองเพื่อไปอ่านที่ฉันเขียนเกี่ยวกับเมืองนั้นๆ คลิกชื่อโรงแรมเพื่อไปดูเว็บไซต์โรงแรมนะ

REYKJAVIKSunna Guesthouse


เราพักห้องแบบสตูดิโอสำหรับสามคน ราคา 115 ต่อคืน มีห้องครัวและเครื่องครัวพร้อม ทำเลในแง่หนึ่งถือว่าดีมาก เพราะอยู่หน้าโบสถ์ Hallgrimskirkja เลย แต่ถ้าจะเข้าเมืองต้องเดินประมาณ 10-15 นาที (ไปถึง Harpa) แม้จะไม่ได้อยู่ใจกลางเมือง แต่ก็ไม่ไกลเกินเดิน และดีตรงที่ตอนกลางคืนไม่มีเสียงปาร์ตี้จากผับและบาร์ในเมืองมารบกวนเวลานอนสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนด้วย เสียอย่างเดียวน้ำเหม็นกลิ่นกำมะถันไปนิด แต่คิดว่าอาจจะเป็นทุกที่ทั่วเมืองหลวง (รึเปล่า?) เพราะอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำพุร้อนทั้ง Geysir และ Blue Lagoon นั่นเอง แต่รวมๆ แล้วใช้ได้เลยทีเดียว
**ตอนที่เราไป จ่ายค่าห้องเป็นยูโรถูกกว่าเป็นโครนนะ สำหรับที่นี่**

GOLDEN CIRCLEEfsti-dalur II Farm Hotel


ที่พักสไตล์ฟาร์มแห่งนี้อยู่ห่างจาก Geysir 15 นาทีและ Gullfoss 20 นาที ห้องพักราคาคืนละ 120 สำหรับสามคน ถือว่าธรรมดาๆ ไม่หรูหราไม่ห่วยแตก ห้องน้ำที่นี่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ร้านอาหารก็งั้นๆ ราคาแพงมาก คงเป็นเพราะใช้ของดี เนื้อวัวจากฟาร์มที่เลี้ยงเอง ส่วนอาหารเช้าใช้ได้เลย (เป็นโรคเสพติดบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าค่ะ) ที่นี่มีไอศครีมโฮมเมด อร่อยดีเหมือนกัน

VIKWelcome Hotel in Vik

ด้วยราคา 120ย ยูโร (โคตรแพง ไม่คุ้มเล้ย) เราไม่ค่อยชอบที่นี่เท่าไหร่นัก อาจจะเป็นเพราะอาหารเช้าไม่น่ากินสุดๆ แถมยังเจอพนักงานต้อนรับนิสัยแปลกๆ แต่เวลาต้องการอะไรเขาก็ช่วยนะ ขอกาต้มน้ำไฟฟ้าก็เอามาให้ เราไม่มีตัวเลือกมากนักในเมือง Vik แต่ถ้าไปอีกครั้งอาจจะเลือกพัก YHA ที่เป็นแบคแพคเกอร์ แม้ราคาต่อสามคนจะเท่าๆ กัน อย่างน้อยก็ทำกับข้าวได้ ช่วยประหยัดค่าอาหารได้อีกนิด

JOKULSARLONHali Country Hotel

นี่เป็นหนึ่งในที่พักโปรดเขาเรา แม้จะตั้งอยู่เดี่ยวๆ ท่ามกลางธรรมชาติ แต่เป็นที่พักยอดฮิตของนักท่องเที่ยว เพราะอยู่ใกล้ Jokulsarlon มาที่สุดแล้ว สามารถตื่นเช้ามาถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น หรืออยู่จนถึงสามสี่ทุ่นเพื่อรอถ่ายพระอาทิตย์ได้ ใครโชคดีเจอแสงเหนือ ก็ขับรถมาที่หาดทรายสีดำกับก้อนน้ำแข็งได้เลย ห่างจากโรงแรมเพียงแค่ 13 กิโลเมตรเท่านั้น



สิ่งที่เราชอบที่สุดของที่นี่คงหนีไม่พ้นอาหารเช้า ที่จัดเต็มสุดๆ ตั้งแต่ขนมปัง Home-baked อบเสร็จใหม่ๆ รสชาติสุดยอด เครื่องเคียงหลากหลายชนิด และวาฟเฟิลโฮมเมดกับเค้กต่างๆ เรียกได้ว่ามื้อเช้าที่นี่อิ่มหนำสำราญไปจนถึงบ่ายๆ ได้เลย ประทับใจจริงๆ



Hali จะมีห้องพักสามเกรด แบบอพาร์ตเม้นท์ในบ้านสีเหลืองริมทะเลสุดน่ารัก (แพงสุด) แบบโรงแรมปูพรมแดงแถมมีห้องครัวแชร์ให้ใช้ร่วมกัน (แพงรองลงมา) และแบบแบคแพคเกอร์ห้องน้ำรวมที่ถูกที่สุด แน่นอนว่าเราจองแบบถูกสุดไป (คืนละ 120 ยูโรต่อสามคน) แต่ครั้งแรกที่ไปถึง เราได้อัพเกรดห้องให้เป็นแบบโรงเรม เพราะห้องแบบแบคแพคเกอร์เพิ่งทาสีไป ยังมีกลิ่นเหม็นอยู่ เราเลยรู้สึกว่าที่พักที่นี่หรูหราเป็นพิเศษ แต่พอมาครั้งที่สองห้องแบบแบคแพคเกอร์หายเหม็นแล้ว (เซ็งเลย) แม้จะดีสู้แบบแพงไม่ได้ แต่แค่อาหารเช้าก็คุ้มแล้วล่ะ แถมพนักงานทุกคนยังบริการแบบน่ารักเป็นกันเองสุดๆ อีกด้วย ถ้าใครต้องการสักพักสามารถบอกคุยกับที่ receptionได้ เขาจะเอาไปซักและอบให้เรียบร้อยในราคา 1000ISK

ถ้าได้กลับไปอีกเราจะไปพักที่นี่แน่นอน ใครจะไปต้องรีบจองตั้งแต่เนิ่นๆ นะ โดยเฉพาะช่วงฤดูท่องเที่ยว ที่นี่จะเต็มเร็วพอสมควรเลยล่ะ

SEYDISFJODURHotel Aldan


เราแวะเมืองนี้เพราะถือว่าเป็นทางผ่าน แล้วพอดี Lonely Planet แนะนำมา โดยเน้นย้ำเป็นพิเศษว่าต้องพักที่นี่นะ เพราะมันน่ารักจริงๆ เราเลยตัดสินใจเชื่อคัมภีร์ไบเบิ้ลของนักท่องเที่ยว แล้วจองโรงแรมที่แพงที่สุดในทริปด้วยราคา 140 ยูโรดู ห้องที่เราพักอยู่ในตึกดัดแปงมาจากธนาคารเก่า ตกแต่งได้อย่างน่ารักกุ๊กกิ๊กถูกใจผู้หญิงอย่างฉันสุดๆ ทุกอย่างของที่นี่ออกแนววินเทจที่หรูหราพอสมควร โดยเฉพาะเตียงแบบ alcove ของฉันที่หลบอยู่ในมุมคล้ายๆ ถ้ำ ดูน่ารักและเป็นส่วนตัวมากๆ ห้องน้ำก็ดี แม้อาหารเช้าจะอร่อยสู้ที่อื่นไม่ได้ เพราะของน้อยไปนิดและไม่ได้เป็นแบบบุฟเฟต์ (อาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้ไปในฤดูท่องเที่ยว และเมืองนี้มีขนาดเล็กมาก เขาเลยต้องเตรียมของให้แค่พอกับแขกที่มาเข้าพัก) แต่ก็เป็นกระสบการณ์ที่น่ารักน่าจดจำมากๆ เลยทีเดียว

MYVATN—Guesthouse Stong

ที่นี่เป็นที่พักที่เราเข้าไปแล้วอยากรีบออกมาทันที ตอนนั้นคิดในใจเลยว่าดีนะที่จองไปแค่คืนเดียว
อย่างแรกเลยคือกระท่อมน้อยกลางทุ่งหญ้านี้อยู่ห่างจากแหล่วงท่องเที่ยวชมทะเลสาบมากพอสมควร แต่เนื่องจากตอนนั้นเราไม่มีทางเลือกอื่น เพราะมันแพงไปหมด บวกกับที่นี่ราคาถูกเหลือเชื่อ เพียง 75 ยูโรเท่านั้น เราเลือกที่นี่

เป็นไงล่ะ ทางเข้าที่พักเรา

ปัญหาหลักอยู่ที่ว่า ช่วงที่เราไปเจอหิมะตก ลมแรงมาก และทางเข้าไปถึงที่พักประมาณ 5 กิโลเมตรเป็นทางลูกรัง ด้วยสภาพอาหาศตอนนั้นเลยทำให้มันเฉอะแฉะเละเทะไปหมด ต้องขับอย่างช้าๆ เพราะทางไม่ได้ คนนั่งก็ก้นกระเด็นกระดอนขึ้นๆ ลงๆ ตลอดทาง เรียกได้ว่าเป็น 5 กิโลที่ยาวนานสุดๆ ส่วนตัวห้องพักนั้น มีห้องครัวรวมแยกออกมาอยู่อีกตึกหนึ่ง ซึ่งค่อยข้างเก่าและห่วยมาก (75 ยูโรคงได้แค่นี้แหละเนอะ) ที่นี่ดีตรงอาหารเช้าที่พอทำให้หายเศร้าหมองได้บ้าง มีแฮมและแยมทำเองหลายชนิด รวมไปถึง geysir bread ขนมปังที่อบโดยใช้พลังงานความร้อนจากใต้ดิน ส่วนพนักงานก็ให้ความช่วยเหลือเป็นมิตรดีพอสมควร

ไม่ค่อยอยากจะแนะนำที่นี่หรอก แต่เท่าที่ดูมามันถูกที่สุดแล้วจริงๆ ถ้าไม่ไปหน้าหนาวอาจจะโอเคนะ

AKUREYRISkjaldarvik Guesthouse


เป็นเกสต์เฮ้าส์ที่ตกแต่งได้อย่างน่ารักเป็นกันเองมาก เรียกได้ว่าถูกใจสาวๆ ที่มาพักแน่นอน ห้องสำหรับสามคน ราคา 115 ยูโรมีฟังชั่นน้อยไปนิด และต้องใช้ห้องน้ำรวม (ที่นี่ไม่ีแบบห้องน้ำในตัว) แต่ห้องน้ำก็ดีมากๆ มี Hot tubแบบ outdoorให้บริการฟรี ข้อเสียอย่างนึงคือไม่มีห้องครัว และไม่ได้อยู่ในตัวเมือง Akureyri ต้องขับรถตามทางหลวงหมายเลข 1 ขึ้นมาทางเหนือประมาณ 10 นาที ถ้าเช่ารถคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ที่นี่เลี้ยงม้าอยู่หลายตัว และมีทัวร์ขี่ม้าด้วย


สิ่งที่เราโปรดปรานมากที่สุดของที่นี่คงหนีไม่พ้นอาหารเช้า (อีกแล้ว เห็นแก่กินชะมัด) ที่เต็มไปด้วยของโฮมเมด ทั้งแยมหลากหลายชนิด (อร่อยๆ ทั้งนั้นเลย มีใส่ขวดขายด้วยนะ) ขนมเค้ก และขนมปัง แถมยังมี Skyr ให้ลองชิมอีกด้วย แม้ขนมปังจะอร่อยเหาะสู้ของ Hali ไม่ได้ ด้านของหวานและแยมต่างๆ ที่นี่กินขาดไปเลย

GRUNDARFJODURGrundarfjordur Youth Hostel

ในราคาเพียง 110 ยูโร เราได้อพาร์ตเม้นท์ขนาดใหญ่สำหรับสี่คนพร้อมห้องครัว ห้องนั่งเล่น และให้น้ำครบ เรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคามากๆ reception กับตัวที่พักของที่นี่ไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน แต่ก็ไม่ไกลจากกันมากนัก เพราะเมืองมันเล็กๆ อยู่แล้ว ไปไหนไกลไม่ได้ สรุปง่ายๆ ว่าเป็นที่พักที่เหมาะครบวงจร แม้จะไม่หรูหราสะดวกสบาย หรือมีบริการอะไรมากมาย แต่ก็กว้างขวาง เหมาะสำหรับมาเป็นครอบครัว ทำกับข้าวกินเอง ช่วยประหยัดเงินได้อีกด้วย แถมเมืองนี้ยังอยู่ใกล้ที่เที่ยวอย่าง Kirkjufell ด้วยนะ ขับรถไปแค่ห้านาทีก็ถึงแล้ว ใครที่คิดจะพัก Stykkisholmer ลองกลับไปคิดดูอีกทีละกัน

KEFLAVIK—Guesthouse Gardur Apartments

แม้มันจะอยู่ห่างออกมาจากตัวเมือง keflavik ไปทางแหลมติ่งๆ ที่ยื่นออกไปในทะเลประมาณ 10 กิโลเมตร เราก็เลือกที่จะจองที่นี่เพราะเห็นว่ามันถูกมาก เพียง 95 ยูโรสำหรับพาร์ตเม้นท์นสามห้องนอนขนาด 80 ตารางเมตร พร้อมห้องครัวและห้องนั่นเล่น ปรากฏว่าพอพอไปถึงแล้วเราติดต่อเจ้าของที่พักให้มาเปิดห้องให้ไม่ได้ แม้จะอีเมล์ไปบอกว่าเวลาที่จะมาถึงแล้ว แต่เหมือนว่าเขาจะไม่ได้เช็คอีเมล์ ที่นี่ไม่มี reception ส่วนเราไม่มีซิมการ์ด เลยติดต่อกันไม่ได้ โชคดีที่ขอให้นักท่องเที่ยวชาวสเปนที่พักอยู่ในตึกเดียวกันช่วยส่งข้อความไปบอกเจ้าของให้หน่อย เราเลยเข้าไปพักได้ ไม่งั้นซวยแน่ๆ เพราะฉะนั้นถ้ามากันไม่กี่คนพักในเมือง Keflavikใกล้ๆ สนามบินไปเลยดีกว่า หลายที่มีเตรียมอาหารเช้าพิเศษสำหรับคนที่ต้องไปขึ้นเครื่องแต่เช้าด้วย แต่ถ้ามากันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ห้าคนหรือเจ็ดคน ที่นี่ก็เป็นทางเลือกที่ถูกมาก แต่เตรียมหาวิธีติดต่อกับเจ้าของให้ดีๆ และนัดกันไว้ล่วงหน้านานๆ หน่อยละกัน



You Might Also Like

0 comments

Flickr Images