fjallsarlon
iceland
jokulsarlon
skaftafell
svartifoss
vatnajokull
Jokulsarlon—หิมะ หาดทราย น้ำแข็ง ทะเล
12:33:00มันคือความมหัศจรรย์ของธรรมชาติจริงๆ
ตลอดสองวันสองคืนที่เราอยู่ที่นี่ เป็นช่วงเวลาที่ได้ถ่ายรูปเยอะที่สุดแล้ว เพราะมีทั้ง Skaftafell (หรือที่เรียกรวมกันว่า Vatnajokull ไปแล้ว) และ Jokulsarlon ให้ได้ไปเดินเที่ยว ถ้ามาหน้าหนาว ยังมีถ้ำน้ำแข็ง Crystal Cave อีกด้วย คงต้องอยู่เพิ่มอีกสักคืนแน่ๆ
ระหว่างทางเดินกลับจาก Svartifoss เห็นสายฝนกำลังเริงระบำมาแต่ไกล
ขับรถมาจาก Vik เราแวะเข้า Skaftafell กันก่อน เพื่อเดินไปดูน้ำตก Svartifoss เป็นทางเดินเทร็คกิ้งสั้นๆ ประมาณ 2 กิโลเมตร น้ำตกนี้เป็นอีกหนึ่งหลักฐานยืนยัน ว่าช่วงเวลานี้ไม่เหมาะที่จะเที่ยวน้ำตกในไอซ์แลนด์จริงๆ ลองจินตนาการภาพ Svartifoss แบบโขดหินและภูเขาด้านหลังเป็นสีเขียวๆ คงจะดูชุ่มชื้นดีกว่านี้
จากน้ำตก Svartifoss ถ้าเลือกที่จะเดินย้อนกลับทางเดิมจะใกล้กว่านิดนึง แต่แนะนำให้เดิน loop ไปเลยดีกว่า ไกลกว่ากันแค่ 400 เมตร สิ่งที่ทำให้ 400เมตรนี้ไม่เป็นการเดินอ้อมไปอย่างเสียเปล่า คือ ทางเดินเลี้ยวขวาขึ้นไปบนเนินเตี้ยๆ ที่จะสามารถมองเห็นเทือกเขาและธารน้ำแข็งแบบใกล้ๆ ได้ 180 องศา
ทางไปดูธารน้ำแข็ง Svinafellsjokull
ชมธารน้ำแข็งขนาดมหึมาอย่างใกล้ชิด ที่ Fjallsarlon
คงเหมือนคนมาช่วงหน้าร้อนแล้วได้นั่งเรือไปใกล้ๆ ธารน้ำแข็งใน Jokulsarlon ล่ะมั้ง ต่างกันตรงทีนี่ไม่ต้องเสียตังไงล่ะ
ลองคิดภาพตามดูสิ ก้อนน้ำแข็ง...บนทรายสีดำ...หิมะตก...ริมทะเล สี่อย่างที่ไม่น่าจะมาอยู่ในสถานที่และเวลาเดียวกันได้ กลับเกิดขึ้นพร้อมกันที่นี่ ณ Jokulsarlon
ธรรมชาติมันช่างยิ่งใหญ่และน่าอัศจรรย์ใจเหลือเกิน
**ข้อแนะนำสำหรับช่างภาพที่ตั้งใจจะไปถ่ายรูปก้อนน้ำแข็งบนหาดทรายดำ (ฝั่งขวา) ที่ Jokulsarlon**
เช็คตารางน้ำขึ้นน้ำลงให้เรียบร้อย ช่วงที่เหมาะที่สุดคือช่วงที่น้ำกำลังจะลงไปได้ครึ่งนึง เพราะจะมีก้อนน้ำแข็งให้เลือกเยอะ หลายรูปทรง และไม่ต้องคอยระวังน้ำคลื่นสาดใส่จนเปียกเท่าไหร่นัก ถ้าได้เป็นแสงเช้าๆ หรือเย็นๆ ก่อนพระอาทิตย์ตก จะสะท้อนน้ำผ่านน้ำแข็งกลายเป็นสีส้ม สีชมพู สวยงามมาก
0 comments