หลายคนที่เจอฉันระหว่างทาง มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เฮ้ย ไปอังกฤษครั้งแรกในชีวิต แถมยังเป็นการไปเรียนปริญญาตรีโดยไม่ผ่านเอเย่นต์ ไม่มีคนไปส่ง ไม่รู้จักใครที่นู่น น้องกล้ามากค่ะ”

ใช่แล้ว ฉันบ้ามากที่มาคนเดียวโดยไม่รู้จักใครสักคน แต่ถ้าถามว่ามันเกินความสามารถของเด็กอายุ 18 ปีไหม บอกได้เลยว่าไม่ แค่อาศัยความกล้าอย่างที่พี่เขาบอก บวกกับดวงอีกนิดหน่อยนั่นเอง

ไอ้นิดหน่อยอันสุดท้ายนี่ขาดไม่ได้นะเออ

ด้วยความช่วยเหลือจากพ่อแม่และคนรู้จักเล็กน้อย ฉันทำเองทุกอย่างตั้งแต่สมัครเรียน ขอวีซ่า จองหอพัก เลือกซื้อตั๋วเครื่องบิน จัดกระเป๋าเดินทาง จนกระทั่งบินมาถึงอังกฤษอย่างมึนๆ

ถึงจะมึน แต่ก็ภูมิใจว่าฉันทำได้ด้วยว่ะ


สมัครเรียน

ก่อนจะสมัครเรียนได้ เริ่มแรกจะต้องเลือกคณะที่จะเรียน และมหาวิทยาลัยให้ได้ก่อน โดยดูปัจจัยเรื่องเมืองที่อยู่เป็นหลัก หลังจากได้สอบถามคนอังกฤษหลายๆ คน ฉันพบว่า

ไม่มีใครแนะนำให้อยู่ลอนดอน (พลุกพล่าน ราคาแพงมาก คุณภาพชีวิตต่ำกว่าเมืองอื่น)

ทางตอนเหนือค่าครองชีพจะถูกกว่า ผู้คนเป็นมิตรกว่า แต่อากาศจะแย่กว่าทางใต้ และยิ่งขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ สำเนียงจะฟังยากขึ้น ในขณะที่ทางใต้อากาศอบอุ่นกว่า โอกาศเจอวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสอาจจะมากกว่าเล็กน้อย แต่ค่าครองชีพแพง และผู้คนเป็นมิตรสู้ทางเหนือไม่ได้

เมืองที่ฉันสนใจสองเมืองคือ Newcastle, Leeds และ Edinburghเพราะเมืองไม่เล็กคนเกินไป (เข็ดขยาดจากการอยู่เมืองเล็กๆ ในเยอรมนี) การเดินทางเข้าถึงสะดวก จะไปไหนก็ง่าย แต่เมื่อมีปัจจัยเรื่องมหาลัยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้ว ฉันจึงเลือกไป Leeds (เพราะประทับใจเจ้าหน้าที่ที่น่ารักเป็นกันเอง...มันใช่เหตุผลที่จะเลือกที่เรียนไหมเนี่ย นี่สัญชาติญาณล้วนๆ เลยนะ)

เนื่องจากฉันเลือกเรียน Foundation Year ก่อนหนึ่งปี การสมัครเข้าเรียนเองเลยง่าย ไม่ต้องทำผ่านระบบ UCAS และไม่มีการจ่ายค่าสมัคร โดยต้องอีเมล์ไปหาแผนก Admission ของมหาวิทยาลัย ถามเขาเลยว่ายังมีที่ว่างอยู่ไหม ต้องส่งเอกสารอะไร แล้วก็จัดการส่งไปให้ตามที่เขาขอมา คือ

• Transcript ของม. ปลาย
• Personal Statement เขียนเกี่ยวกับตัวเอง และสาเหตุที่อยากเรียนคอร์สนี้ ให้ครูฝรั่งที่โรงเรียนช่วยแก้ละตรวจทานแกรมม่าให้เรียบร้อย
• Letter of Recommendation จากคุณครูที่โรงเรียน ถ้าเป็นครูที่สอนวิชาที่เกี่ยวข้อกับคณะที่เราจะสมัครยิ่งดี
• ใบสมัคร หาโหลดได้ในเว็บไซต์ของมหาลัย ถ้าไม่มีอีเมล์ไปขอเขาได้เลย
• พาสปอร์ต สแกนส่งไป
• Portfolio อันนี้สำคัญมากสำหรับคนที่จะเรียนด้านศิลปะและการออกแบบ ฉันรวบรวมผลงานทั้งหมด ทั้ง Sketchbookภาพวาด ออกแบบ ภาพถ่าย และงานตัดต่อวิดีโอ มาทำเป็นไฟล์ pdf ประมาณ 20หน้า ใช้โปรแกรม InDesign ออกแบบการนำเสนอให้ดูดีสมกับที่อยากเรียนทางด้านนี้หน่อย

พอส่งเอกสารไปครบแล้ว ก็นั่งรอเขาติดต่อกลับอย่างเดียว ของฉันใช้เวลาที่ละไม่เกินหนึ่งเดือน สมัครไปประมาณ 4 ที่ มีเพียงที่เดียวที่เรียกสัมภาษณ์ นอกจากนั้นรับหมดเลย (อันนี้ในกรณี Foundation นะ) พอตอบรับมหาลัยเรียบร้อยแล้วจึงเริ่มหาหอพักและเตรียมเอกสารทำวีซ่าต่อ

หาหอพัก

เรื่องหอพักของฉันน่าปวดหัวเล็กน้อย เพราะหอของมหาลัยเต็ม เลยต้องหาหอนอกอยู่เอง สุดท้ายเลือกที่ (เขาว่ากันว่า) ดีที่สุดใน Leeds เพราะอยู่ใกล้ตัวเมืองมาก และห่างจากแคมปัสของฉันเพียงห้านาทีเท่านั้น ปัจจัยเรื่องโลเคชั่นนี่สำคัญจริงๆ นะ เพราะมันคือความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต เวลาไปเรียนแล้วลืมของกลับมาเอาได้ไม่ลำบาก ถ้าของไม่ครบหรือลืมซื้ออะไรก็เดินไปเดินกลับใกล้ๆ ถ้าหออยู่ไกล จะเข้าเมืองทีเดือนเกือบครึ่งชั่วโมง คงไม่อยากเดินกลับไปกลับมาบ่อยๆ แน่ๆ

ฉันจองห้องแบบที่ถูกที่สุด เป็นห้องเดี่ยวเล็กๆ มีห้องน้ำในตัว แชร์ห้องครัวและห้องนั่งเล่นกับเพื่อนอีกห้าคนเพราะขนาดแบบถูกนี้ราคายังโหดร้ายสุดๆ ไปเลย ยิ่งจองช้า ถ้าไม่เต็มราคาก็จะแพงขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย

ขอวีซ่า

เรื่องวีซ่านั้น แม้จะดูยุ่งยากแต่ที่จริงมันง่ายกว่าที่คิดมาก เอกสารที่ฉันยื่นไปทั้งหมดมี

• แบบฟอร์มที่เข้าไปกรอกออนไลน์แล้วปริ้นท์ออกมา (เดี๋ยวนี้แบบฟอร์มที่ปริ้นท์ออกมากรอกไม่ต้องใช้แล้ว)
• พาสปอร์ตพร้อมสำเนา 2 ฉบับ
• รูปถ่าย 2 รูป
• ใบรับรองแพทย์ TB Test ต้องไปทำที่ IOM ถ้าไม่มีปัญหาอะไร (ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่มี) ไปแต่เช้า ก่อนเที่ยงก็ได้เอกสารครบแล้ว
• CAS ที่ทางมหาลัยจะส่งไปรษณีย์มาให้ ไม่มีตัวนี้ยื่นวีซ่าไม่ได้เด็ดขาด
• ใบรับรองสถานะทางการเงิน เปิดบัญชีเป็นชื่อตัวเองอย่างต่ำ 28 วัน แล้วขอให้ธนาคารออก Bank Letter ให้ ถึงเวลายื่นสมุดบัญชีตัวจริงไปด้วย ถ้าอยู่นอกลอนดอนต้องมีเดือนละ 820£
• Transcript และใบรับรองจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม (กรณีเข้า ป.ตรี)
• ผลสอบ IELTS

ถ้ามีเอกสารอื่นๆ พวกสัญญากับหอพัก จะเอาไปด้วยก็ได้ แต่ฉันไม่มีก็ไม่มีปัญหาอะไร เพียง 15 วันทำการได้รับวีซ่าแล้ว หากใครต้องการให้ส่งเอกสารต่างๆ คืนทางไปรษณีย์ EMSเตรียมค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมไปด้วย 350 บาท รับเฉพาะเงินสดเท่านั้น

การขอวีซ่า TIER 4 ของอังกฤษนั้น ทำทุกอย่างออนไลน์หมด ตั้งแต่กรอกข้อมูล จ่ายเงิน และทำนัดยื่นวีซ่าที่ VFS อาคาร Trendy ชั้น 28 วันที่ไปขอวีซ่าที่ศูนย์ พอยื่นเอกสารเสร็จแล้วก็มีสัมภาษณ์สั้นๆ ทางสไกป์กับเจ้าหน้าที่อังกฤษเล็กน้อย ถามประมาณว่าทำไมถึงเลือกคอร์สนี้ ทำไมอยากมาเรียนที่อังกฤษ ทำไมถึงเลือกคอร์สนี้ เปิดเทอมเมื่อไหร่ เป็นต้น

ต่อไปจะมาต่อเรื่องการซื้อตั๋วเครื่องบิน และการจัดกระเป๋าค่ะ