Prossima Fermata: Cantinaccio

ตอนอยู่ที่ Soraga ฉันมีวันว่างหนึ่งวันเต็มๆ เป็นวันอาทิตย์ที่อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ฟลาเวีย (Flavia) แม่ของออโรร่าแนะนำให้ฉันนั่งกระเช้าจาก V...

ตอนอยู่ที่ Soraga ฉันมีวันว่างหนึ่งวันเต็มๆ เป็นวันอาทิตย์ที่อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ฟลาเวีย (Flavia) แม่ของออโรร่าแนะนำให้ฉันนั่งกระเช้าจาก Vigo di Fassa ขึ้นไปเดิน trekking ด้านบน Rosengarten หรือ Cantinaccio คือกลุ่มเทือกเขาที่โด่งดังที่สุดในแถบนี้ ฉันตัดสินใจเชื่อคำแนะนำของเธอแบบไม่ต้องคิดมาก จะให้นักท่องเที่ยวอย่างฉันมารู้ดีกว่าคนท้องถิ่นคงจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

วันนั้นเป็นอีกวันที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์มากมาย วันที่ฉันคงจะจำขึ้นใจไปอีกนาน


เริ่มจากตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่หกโมงครึ่ง ปั่นจักรยานไปชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ Pera di Fassa ซึ่งสวยจนทำให้ฉันอยากจะร้องให้ ฉันยืนซึมซับภาพความงามของธรรมชาติตรงหน้า รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกิน

ปั่นจักรยานกลับบ้านด้วยอารมณ์ดีเต็มร้อย กินข้าว แพคกระเป๋า เตรียมออกเดินทางไปขึ้นกระเช้าที่วิโก้ (Vigo di Fassa) ตั้งใจเต็มที่ว่าจะปั่นจักรยานไปล็อคไว้แถวๆ สถานีกระเช้า แล้วตอนเย็นจะได้ปั่นกลับ อยู่รอชมพระอาทิตย์ตกระหว่างทางด้วยเลย

ปรากฏว่าเขาไม่มีตัวล้อคจักรยานให้ แอบเซ็ง เลยตัดสินใจจะโบกรถไปแทน

แต่ก็ไม่ได้ง่ายๆ...แดดเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนฉันก็เสียเวลากับการรอไปเรื่อยๆ สุดท้ายเลยตัดสินใจเดินไปซื้อตัวล็อคจักรยานในเมือง

พอซื้อมาแล้ว ปรากฏว่าออโรร่าไม่ให้เอาจักรยานไปใช้! เพราะหลายครั้งมีคนขโมยชิ้นส่วนของจักรยานไป อานบ้าง ล้อบ้าง เลยอนุญาติให้เอาไปขี้เล่นเฉยๆ แต่ห้ามไปจอดทิ้งไว้ที่ไหน

เซ็งนิดๆ แต่ก็ต้องยอมรับสภาพ เดินกลับไปที่ร้าน จะเอาตัวล้อคไปคืน

ที่ร้านไม่ให้คืนจ้า เปลี่ยนได้อย่างเดียว

ตอนนั้นอารมณ์เสียสุดๆ เห็นกราฟอารมณ์ในหัวของตัวเอง จากเมื่อเช้าที่ดี๊ด๊าแฮปปี้ ตอนนี้มันกำลังดิ่งลงเหว

ฉันต้องยอมรับสภาพ ยอมเดินเท้าไปแทน ที่จริงมันก็ไม่ไกลมาก แค่ครึ่งชั่วโมงเอง ถ้าเดินแต่แรกก็ถึงแล้วไง ความเขียวชอุ่มของต้นไม้ และเสียงน้ำในลำธารทำให้อารมณ์ของฉันสงบลงเล็กน้อย


แล้วพอได้ถ่ายรูปสวยๆ ที่ถ้าขี่จักรยานมาคงไม่ได้ถ่าย ฉันก็อารมณ์ดีขึ้น ยิ่งพอขึ้นไปถึงบนเขา มองไปรอบๆ เห็นความอลังการของธรรมชาติและเทือกเขา ก็กลับมาดี๊ด๊าได้เหมือนเดิม

ฉันกระโดดโลดเต้นไปมาอย่างมีความสุข ลืมความทุกข์ของสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าไปซะหมด เดินไปเรื่อย หิวก็กิน เหนื่อยก็พัก เจอที่ไหนสวยก็ถ่ายรูป


ชีวิตดี จนกระทั่งทำแว่นตาหล่นหายเนี่ยแหละ

เซ็งอีกแล้ว

ฉันเดินย้อนกลับไปเรื่อยๆ คิดว่ามันต้องหล่นอยู่ระหว่างทางไม่ไกลนี่แหละ เพราะก่อนหน้านี้ยังใส่อยู่เลย

เดินก้มหน้าก้มตาหาไปเรื่อยๆ จนมาเจอแว่นตาคุ้นๆ วางอยู่บนก้อนหินใหญ่ คงจะมีคนใจดีเก็บขึ้นมาวางไว้ให้แน่ๆ


หลังจากนั้นชีวิตก็ค่อนข้างราบรื่นดี เดินไปเขาไปจนถึง Rifugio Vajolet นั่งพัก ถ่ายรูป คุยกับคนนู้นคนนี้ไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่จะเดินกลับลงมาที่สถานีกระเช้าอีกครั้ง มานั่งเขียนบันทึก ทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้

เห็นความเหวี่ยง เห็นความไม่เที่ยวของอารมณ์ตัวเองมาก เลยเขียนออกมาเป็นกราฟอารมณ์ซะเลย


เคยนั่งสมาธิมาหลายรอบ ฟังมาหลายครั้งหลายคราว่าทุกอย่างมันไม่เที่ยง แต่คราวนี้มันเกิดขึ้นกับตัวเองให้เห็นแบบชัดเจนมาก เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เดี๋ยวสุข เดี๋ยวเศร้า มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกวัน ทุกคืน ทุกชั่วโมง


สิ่งสำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นกับฉันตลอดทริปนี้ คงจะเป็นการได้เห็นอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของตัวเองในวันนี้ และได้สอนให้ตัวเองปล่อยวางกับอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เหล่านี้ เพราะรู้ว่ามันจะไม่ได้อยู่กับฉันตลอดไป




You Might Also Like

0 comments

Flickr Images